ทิดเขียว (สิน สีบุญเรือง)
Tid Khiao (Sin Sibunrueang)
8
ผลงาน
2484-2491
8
ภาพยนตร์
100% ของผลงาน
0
ละคร
0
รายการทีวี
เสียชีวิต 4 กันยายน 2491
8 ผลงาน
ตั้งแต่ 2484
ประวัติย่อ
สิน สีบุญเรือง หรือรู้จักกันในชื่อ ทิดเขียว
.
ชื่อจริง : สิน สีบุญเรือง
ชื่ออื่น / ฉายา : ทิดเขียว
วันเกิด : พ.ศ. 2436
เสียชีวิต : 4 กันยายน พ.ศ. 2491
ปีที่พากย์ : 2470 – 2491
ครอบครัว : สาคร สีบุญเรือง (ภรรยา), พร้อมสิน สีบุญเรือง (ลูกชาย)
.
นายสิน สีบุญเรือง เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2436 ที่ตำบลคุ้งน้ำวน อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของนางนิ่ม สีบุญเรือง และนายฮุดเส็ง เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์จีน โนสยาม
.
เมื่อมีอายุได้ 10 ปี มารดาได้พาเข้ามาศึกษาที่กรุงเทพ ในสำนักท่านพระครู (กล่อม) เจ้าอาวาสวัดสามปลื้ม แต่แทนที่ จะตั้งใจเรียนหนังสือ เด็กชายสิน กลับใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปกับการสนใจในมหรสพต่างๆ โดยเฉพาะภาพยนตร ์ซึ่งเพิ่งเข้ามาในเมืองไทย ได้ไม่นาน นายสินชื่นชอบ ภาพยนตร์มากถึงขนาด อาสาเข้าไปรับใช้ใน บ้านของเจ้าของกิจการ โรงหนังแห่งหนึ่ง แถวตำบลสามแยก ในระหว่างนี้นายสินมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีฉายหนัง จนได้รับการไว้วางใจ ให้นำหนังออกไปเร่ฉาย ตามต่างจังหวัด
.
ข่าวการไม่สนใจ การเรียนของ นายสินล่วงรู้ถึงหูของบิดา สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงกับขนาดตัดนายสิน ออกจากกองมรดก นายสินเมื่อไร้ที่พึ่งจึง ออกตระเวนหางานตามที่ต่างๆ เพื่อเลี้ยงตัวเอง หลังจากหาอยู่นานใน ที่สุดก็ได้เข้าทำที่โรงหนัง วังเจ้าปรีดา ของนายซุ่นใช้ โดยมีหน้าที่ทำ เสียงประกอบ ระหว่างฉายหนังเงียบ หลังจาก ทำอยู่ได้ระยะหนึ่ง ก็ได้รับมอบหมาย ให้เขียนใบปลิว บอกเรื่องย่อ ของหนังที่กำลังเข้าฉาย ยุทธวิธีการทำใบปลิวแจก ของโรงหนังวังเจ้าปรีดา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมามาก เนื่องจากทำให้ผู้ที่ไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษสามารถติดตาม เรื่องราวของหนังได้อย่างม ีอรรถรส
.
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2462 เกิดปรากฏการณ์สำคัญขึ้น ในวงการโรงภาพยนตร์ของเมืองไทย เมื่อบริษัทยักษใหญ่ 2 บริษัทคือบริษัทรูปยนต์กรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าของ โรงวังเจ้าปรีดา และบริษัทพยนต์พัฒนากร ซึ่งมีโรงหนังพัฒนากร เป็นศูนย์กลางได้รวมตัวขึ้น เป็นสยามภาพยนตร์บริษัท และได้แต่งตั้งให้ นายเซียวซองอ๊วน เป็นผู้จัดการ ในช่วงเวลานี้ นายสินถูกโอนจากบริษัทรูปยนต์ กรุงเทพ มาอยู่ที่ สยามภาพยนตร์บริษัท โดยยังมีหน้าที่เขียน เรื่องย่อสำหรับพิมพ์ ใบปลิวเหมือนเดิม
.
จนกระทั่งปี 2465 สยามภาพยนตร์บริษัท ได้เริ่มต้นออกนิตยสารของตนเองชื่อ "ภาพยนตร์สยาม" นายสิน ก็ได้ย้ายมาเขียน โปรแกรมฉายหนัง ในหนังสือแทน โดยใช้นามปากกว่า "ทิดเขียว" เขียนได้ไม่นานชื่อ"ทิดเขียว" ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้อ่าน
.
เดือนกันยายน พ.ศ. 2467 สยามภาพยนตร์บริษัท ได้จัดส่งคณะละครไทยและ คณะตระกร้อออกไปตระเวณ แสดงที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงระหว่างนี้นิตยสาร "ภาพยนตร์สยาม" ได้ถูกยกเลิกไป โดยทางสยามภาพยนตร์บริษัท ได้หันไปออกหนังสือพิมพ์ รายสองวันชื่อ "ข่าวภาพยนตร์" แทน และได้มอบหมาย ให้นายสิน เป็นบรรณาธิการทำหน้าที่ เขียนคอลัมน์และ ตอบจดหมาย
.
หลังจากคณะละคร ไทยเดินทางกลับจากอเมริกา ในปี พ.ศ. 2468 นายสินก็ได้รับมอบหมายจาก สยามภาพยนตร์บริษัท ให้เป็นผู้ควบคุม คณะละครคณะ นี้ไปแสดงตามโรงหนัง ในสังกัดของสยามภาพยนตร์บริษัท ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด หลังจากคลุกคลีอยู่ใน วงการละครได้ระยะหนึ่ง นายสินก็เกิดความผูกพันและ หลงใหลในโลกของละคร เป็นอย่างมาก ประกอบกับ ช่วงเวลานั้นกิจการของ สยามภาพยนตร์บริษัท อยู่ในสภาวะตกต่ำทาง เศรษฐกิจจนต้องแยกออกมาเป็น บริษัทภาพยนตร์พัฒนากร นายสินจึงตัดสินใจลาออก จากตำแหน่งบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ข่าวภาพยนตร์ แล้วออกมาตั้งคณะละคร ของตัวเอง แต่นายสินทำอยู่ได้ 3-4 ปี ก็ประสบกับภาวะขาดทุนจนต้องกลับมาทำงานที่บริษัทภาพยนตร์พัฒนากรอีกครั้ง
.
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้บริษัทภาพยนตร์พัฒนากร ซึ่งนำโดยนายต่วน ยาวะประภาษได้จัดให้มีการอธิบาย ประกอบการฉายหนังเงียบขึ้นมา โดยให้เจ้าหน้าที่ของ บริษัทยืนถือโทรโข่ง ตะโกนอธิบายเรื่องราวของหนังอยู่หน้าจอ วิธีประสบความสำเร็จพอสมควร เมื่อนายสินกลับมา ในช่วงเวลาดังกล่าว นายต่วนจึงจัดให้นายสินเป็นผู้บรรยาย หนังเงียบหน้าจออีกคนหนึ่ง ภาพยนตร์ที่ถือเป็นใบเบิกทางสู่ ความสำเร็จของการบรรยายหนัง ของนายสินได้แก่ ภาพยนตร์อินเดียเรื่อง "รามเกียรติตอนหนุมานเผาลงกา" ในเรื่องนี้นายสินได้ทดลองนำ บทพากย์โขนมาดัดแปลง เป็นบทพากย์หนัง ปรากฎเป็นที่ถูกใจเป็นอย่างมาก ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงทำให้ชื่อ "ทิดเขียว" กลับมาเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม อีกครั้งเท่านั้น หากยังทำให้คำว่า "พากย์หนัง" เริ่มเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย อีกด้วย
.
เข้าสู่ช่วงกลางทศวรรษที่ 2470 ในช่วงเวลานี้หนังเสียงได้เข้ามาแทนหนังเงียบอย่างเต็มตัว ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือ ข้อจำกัดทางภาษา ช่วงเวลานั้นหนัง พูดฝรั่งยังไม่มีการจัด ทำคำบรรยายภาษาไทยเหมือน ปัจจุบัน การพากย์หนังจึงเป็นทางออกเดียวที่จะแก้ไขปัญหานี้ นายสินจึงทดลองพากย์เสียงพูด เป็นภาษาไทยเรื่อง "อาบูหะซัน" ปรากฎได้รับความนิยมอย่าง ถล่มทลาย ส่งผลให้การพากย์เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
นอกจาก ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกพากย์ หนังภาษาต่างประเทศแล้ว นายสินก็ยังได้ชื่อเป็นผู้บุกเบิกการพากย์หนังไทยอีกด้วยสำหรับกิจการการ สร้างหนังไทยในช่วงเวลานั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ หนังพูดซึ่งบันทึกเสียง ระหว่างถ่ายทำ และหนังไทยพากย์ซึ่งสร้างโดยถ่าย เป็นหนังเงียบ แล้วพากย์ให้เสียงในภายหลัง ความนิยมในตัวทิดเขียว มีมากถึงขนาด ในโฆษณาหนังแต่ละเรื่องที่ "ทิดเขียว" พากย์จะต้องมีชื่อทิดเขียว ปะอยู่ข้างชื่อหนัง เพื่อประกันความสำเร็จอยู่เสมอ
.
นายสินดำรงชีพ ด้วยการพากย์หนังมาตลอดจน ช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เขาพากย์ เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่อง บางขวาง (2491) ซึ่งออกฉายใน ปลายเดือนมิถุนายน 2491 หลังจากนั้นในวันที่ 4 กันยายน 2491 นายสิน สีบุญเรืองก็สิ้นลมหายใจอย่างสงบด้วยอาการตับอักเสบ ขณะที่มีอายุได้ 54 ปี
ยังไม่มีรูปภาพ
ยังไม่มีรูปภาพหลักและรูปที่ถูกแท็กของ ทิดเขียว (สิน สีบุญเรือง)
สำรวจผลงาน
เลือกประเภทเนื้อหาที่ต้องการดู
แสดงผลงานทั้งหมด 8 รายการ
ผลงานทีมงาน
บทบาทผู้กำกับ ผู้ผลิต และทีมงานอื่นๆ
8 ผลงาน
ผู้ให้เสียงพากย์
ผู้ให้เสียงพากย์
ผู้ให้เสียงพากย์
ผู้ให้เสียงพากย์
อำนวยการสร้าง
ผู้ให้เสียงพากย์
ผู้ให้เสียงพากย์
ผู้ให้เสียงพากย์
0
ละคร
8
ภาพยนตร์
0
รายการทีวี
👥ผู้มีส่วนร่วม
แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง
T
แก้ไขโดย Thaibunterng
3 ครั้ง
+6 XP