เสริมเวช ช่วงยรรยง

เสริมเวช ช่วงยรรยง หนึ่งในบุคคลผู้มากความสามารถของวงการบันเทิงไทย โดยเริ่มเป็นที่รู้จักจากการเป็นมือคียบอร์ดและหนึ่งในนักร้องนำของวงสตริงคอมโบ ‘รอยัลสไปรท์ส’ (Royal Sprites) ที่โด่งดังในช่วงยุค 70s-80s เสริมเวชเกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2488 เกิดและใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กอยู่ในอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย และศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ . แต่ความหลงใหลในการร้องเพลง โดยเฉพาะแนวทางแบบศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของยุคนั้นอย่าง ‘เอลวิส เพรสลีย์’ ทำให้เขาผ่านไปผ่านมาที่ร้านเครื่องดนตรีเบ๊ เงียบ เส็ง ย่านเวิ้งนครเกษม และนั่นทำให้เขาได้พบและเริ่มรู้จักกับ ‘อำนาจ ศรีมา’ ที่ภายหลังกลายเป็นหัวหน้าวงรอยัลสไปรท์ส และได้ชักชวนให้เขาไปซ้อมดนตรีด้วยกันในฐานะนักร้องขณะที่ยังศึกษาอยู่ . หลังจากอำนาจแยกย้ายจากวงเดิม จึงได้มีการฟอร์มวงที่ชื่อรอยัลสไปรท์สขึ้นมาราวๆ ปี 2511-2512 และตระเวนเล่นตามสถานบันเทิงในเวลานั้น โดยเริ่มแจ้งเกิดในแวดวงดนตรีจากการแข่งขันประกวดวงสตริงคอมโบ ชิงถ้วยพระราชทาน ในปี 2513 ขณะที่วงที่ชนะเลิศอันดับที่ 1 คือวง ‘ดิอิมพอสซิเบิ้ล’ (The Impossibles) . แต่การประกวดครั้งนั้นเองที่ทำให้เสริมเวชต้องหัดเล่นคีย์บอร์ดตามคำแนะนำของอำนาจ โดยต้องเริ่มต้นฝึกจากที่เล่นไม่เป็น จนกลายมาเป็นมือคีย์บอร์ดของวงมานับแต่นั้น . ราวๆ ปี 2521 ทางวงได้ออกอัลบั้ม ‘มันส์สะเด็ดยาด’ ที่นำเพลงลูกทุ่งและลูกกรุงที่โด่งดังในเวลานั้นมาแปลงเนื้อใหม่และเล่นในสไตล์ดิสโก้ แต่อัลบั้มที่แจ้งเกิดวงต่อสาธารณชนจริงๆ คืออัลบั้ม ‘เจงกิสข่าน’ ที่นำเพลงชื่อเดียวกันของวงดนตรีเยอรมันที่ชื่อ ‘เจงกิส ข่าน’ (Dschinghis Khan) มาแปลงเนื้อเพลงเป็นภาษาไทยในปี 2522 . จากนั้นทางวงได้ผลิตเพลงดังออกมาเป็นจำนวนมาก อย่าง รักสิบล้อ รอสิบโมง, สวยในซอย, น่าอาย, พบกันบนดวงดาว เป็นต้น ซึ่งเสริมเวชยังรับหน้าที่นักร้องหลักในหลายโอกาส เช่น การเป็นนักร้องหลักของอัลบั้ม ‘จีบจู๋จี๋’ (2525) ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกๆ ของค่ายเพลง ‘นิธิทัศน์’ . ภาพจำหนึ่งที่ผู้คนจดจำเสริมเวชในฐานะสมาชิกวงรอยัลสไปรท์สได้ นั่นคือการสวมแว่นที่มีกรอบหลากสีคล้ายคลึงกับศิลปินร่วมยุคสมัยที่สวมแว่นกรอบหลายสีและเล่นคีย์บอร์ดเหมือนกันอย่าง ‘เอลตัน จอห์น’ (Elton John) . มาถึงราวปี 2529 สมาชิกวงถึงคราวแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง หลังจากนั้นเสริมเวชได้ไปทำงานต่างๆ ในแวดวงบันเทิงมากมายทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง . แต่อีกหนึ่งบทบาทที่ผู้คนจดจำได้ดี คือชายผู้เป็นโฆษกประกาศเปิดรายการ ‘จี้เส้นคอนเสิร์ต’ ที่บรรดาตลกคณะต่างๆ ในเวลานั้นผ่านสังเวียนนี้มาเกือบทั้งวงการ และชื่อของเขากับ ‘ปีเตอร์ ก๋อย’ มักจะถูกบรรดาตลกกล่าวแซวบนเวทีดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง จนหลายคนพากันเข้าใจไปว่าเขาคือเจ้าของจี้เส้นคอนเสิร์ต . ทั้งนี้การอัดวิดีโอ ‘จี้เส้นคอนเสิร์ต’ ริเริ่มจากแนวคิดของ ‘อชิระ สุธีสถาพร’ เจ้าของ ST Video ที่อยากนำตลกมาบันทึกเทปวิดีโอ ประจวบเหมาะกับที่ ‘จรัล ธิมะโน’ หรือ ‘ปีเตอร์ ก๋อย’ นักจัดคอนเสิร์ตเข้ามาปรึกษาเรื่องนี้พอดิบพอดี โดยจรัลได้ปรึกษาและชักชวนเสริมเวชให้มาร่วมดำเนินการปลุกปั้นโปรเจ็กต์นี้ด้วยกัน . และในฐานะที่เสริมเวชคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมาสักระยะ เขาจึงรู้จักนักแสดงตลกและสไตล์การเล่นของแต่ละคณะ การทาบทามนักแสดงตลกและการเป็นโฆษกประกาศเปิดตัวคณะตลก จึงเป็นหน้าที่หลักของเสริมเวช . แต่ในปี 2562 เสริมเวชพบว่าตนเองมีอาการป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ ต่อมาเริ่มพบโรคประจำตัวอื่นๆ รุมเร้า และทำการรักษามานับแต่นั้น จนกระทั่งในปี 2568 ร่างกายของเสริมเวชถดถอยลงมาก เนื่องจากพบเนื้องอกในสมองกระทบกับก้านสมอง แต่ในที่สุดก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆ เกิดขึ้นหลังจากเข้ารับการรักษาในห้อง ICU ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 และจากไปในวันที่ 15 มีนาคม 2568 เวลาราวๆ 17.15 น. ขณะอายุ 79 ปี *ที่มา: BrandThink