ครูดวงพร อดีตเจ้าของเนอสเซอรี ผู้ทุ่มเททั้งชีวิตเลี้ยงดูเด็กกำพร้า 5 คน ได้แก่ สาลิกา สิริขวัญ เมรี ปองคุณ และปวีร์ ด้วยความรัก ความเมตตา และคำสอนให้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ กตัญญู และสามัคคี แม้ชีวิตจะยากลำบาก แต่ลูกทั้งสี่คนต่างช่วยกันทำงานส่งเสียค่าใช้จ่ายในบ้านและค่ารักษาแม่ครูที่ป่วยเป็นโรคไต ยกเว้น ปวีร์ น้องเล็ก ผู้เคยชินกับการได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น

ปวีร์เรียนจบปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์ ได้โอกาสทำงานที่ โรงแรมริเวอร์โฮม ของยิ่งยศและพรรณฉวี เขาสร้างภาพว่าตนเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของเนอสเซอรี จนได้รับความไว้วางใจและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ท่ามกลางความทะเยอทะยาน ปวีร์พัวพันกับผู้หญิงสามคนในบ้านเดียวกัน ได้แก่ เพ็ญพิชชา ผู้จัดการใหญ่คนใหม่ที่ฉลาดและสง่างาม, มัทนา ลูกสาวคนกลางผู้เรียบร้อยอ่อนโยน และ พิมพ์มาดา ลูกสาวคนเล็กที่หลงรักเขาอย่างเปิดเผย

ความสัมพันธ์ลับระหว่างปวีร์กับมัทนากลับกลายเป็นบาดแผล เมื่อพิมพ์มาดาประกาศจะแต่งงานกับเขา ขณะเดียวกันมัทนาตั้งครรภ์ แต่ปวีร์กลับปฏิเสธความรับผิดชอบและผลักไสให้เธอไปแต่งงานกับชายอื่น ความจริงอันโหดร้ายถูกเปิดเผยกลางงานแต่ง ส่งผลให้มัทนาอับอายและตัดสินใจจบชีวิตตนเอง ทิ้งรอยแผลลึกไว้ในใจทุกคน

ด้านชีวิตครอบครัว ครูดวงพรอาการทรุดลงเพราะไม่ยอมฟอกไตเพื่อประหยัดเงินลูกๆ ก่อนจะประสบอุบัติเหตุและจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ปวีร์มาถึงไม่ทันดูใจแม่ครู ทำให้เขาจมอยู่กับความรู้สึกผิดอย่างหนัก

โศกนาฏกรรมยังไม่จบ เมื่อ ปองคุณ พี่ชายที่พยายามเลิกยุ่งกับยาเสพติด ถูกดึงเข้าสู่เหตุวางระเบิดในโรงแรม จากความเข้าใจผิด ปองคุณถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ขณะที่ปวีร์ยอมเสี่ยงชีวิตนำระเบิดออกจากโรงแรมจนรอดพ้นจากหายนะ แต่ต้องแลกด้วยร่างกายที่พิการและใบหน้าที่เสียโฉม

เมื่อสูญเสียทุกอย่าง ปวีร์เลือกหลบหนีโลก ก่อนจะได้รับการให้อภัยจากคนรอบข้างและโอกาสเริ่มต้นใหม่ พิมพ์มาดา คลอดลูกและเดินทางไปใช้ชีวิตต่างประเทศ ส่วน เพ็ญพิชชา เลือกเลี้ยงดูลูกของพิมพ์มาดาและค่อยๆ เยียวยาหัวใจของตนเอง

สุดท้าย ปวีร์กลับมายืนด้วยลำแข้งของตน ทำงานด้วยความสามารถที่แท้จริง และได้รับโอกาสกลับสู่โรงแรมริเวอร์โฮมอีกครั้ง เรื่องราวของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ สะท้อนผลของความเห็นแก่ตัว ความสูญเสีย การสำนึกผิด และพลังของการให้อภัย ที่นำพาทุกชีวิตไปสู่การเริ่มต้นใหม่